วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559

อาการหลังจากผ่าฟันคุด.... ซี่ที่ทรมานที่สุด

หลังจากวันผ่าไหม ก็ยังมีอาการปวดๆ และเสียวฟันอยู่บ้าง
บ้างก็ปวดหู บ้างกูปวดโหนกแก้ม
ลอง searchๆ ดูก็เคยมีคนเป็นแบบนี้ เค้าบอก 2 สัปดาห์ก็หาย
เราก็คงยังต้องกินพาราต่อไป วันละ 0-2 เม็ดแล้วแต่อาการ
ส่วนใหญ่จะปวดตอน 4 โมงเย็นกับก่อนนอน
ปวดแบบทำงานไม่ได้ คิดอะไรไม่ออกเลย

มาหายเอาจริงๆก็หลังจากที่ตัดไหมไปแล้ว 10 วัน (ถ้านับจากวันผ่าก็บวกเข้าไปอีก 7 วัน)
แต่หลังจากหายแล้วนี่ดิ ลองส่องไฟเข้าไปดูช่องปากนิดนึง
เหงือกบวมครับ!


เทียบกับอีกข้าง ยังเป็นปกติ 
สงสัยอยู่ว่าทำไมรอยเลือดมันอยู่นานจัง มันคือรอบแผลเก่าหรือเผลอกัดเข้าไปซ้ำกันนะ



ตอนแรกก็คิดว่าเราดูแลความสะอาดไม่ดีหรือป่าว เพราะยังเห็นมีขี้ฟันติดอยู่ตามส่วนล่างของฟันอยู่เลย ก็แปรงฟันอย่างดี แปลงบนล่างซ้ายขวาเลย บ้วนปากซ้ำอีกรอบด้วย (ตอนแปรงมีกดแรงจนเลือดออกด้วย น่ากลัวจุง)
หวังว่าถ้าตื่นมาแล้วมันยุบลง ก็จะไม่ต้องไปหาหมอ ถ่ายรูปเก็บไว้ซะหน่อย เอาไว้เปรียบเทียบกับพรุ่งนี้









ตื่นมาวันรุ่งขึ้น.....
มันยังไม่หายแฮะ ยังบวมเปล่งเหมือนเดิมเลย



จำใจไปหาหมอ ไปถึง 10 โมง ได้เรียกเข้าไปนั่งเก้าอี้ตอน 11 โมง ออกมาตอน 11:30
ตอนแรกเข้าใจว่าจะเป็นเคสง่ายๆ มองแล้วบอก "อ๋อ แผลติดเชื้อ เดี๋ยวเอายาไปกินนะ"
แต่หลังจากที่เค้าจิ้มๆดูซักพักแล้ว (เจ็บมาก ตอนจิ้มเหงือกที่บวมอยู่ ระบมไปเลย)
เค้าบอกว่าต้องทำความสะอาดแผลที่ผ่าฟันคุดข้างนั้นไปใหม่ คือเหมือนกับผ่าฟันคุดอีกรอบเลย
ช็อคไปเลยครับ ไม่ได้เตรียมใจสำหรับการผ่าฟันมา

แต่ทำไงได้ครับ ก็ต้องรับชะตากรรมไป ลงไปข้างล่าง กินข้าวให้เต็มอิ่มแล้ว กลับขึ้นมาต่อคิวผ่าฟันต่อ
ขึ้นไปตอนบ่ายโมง ได้ทำจริงๆตอนบ่ายสองนิดๆ
เป็นวันที่ทรมานมาก ฉีดยาชาแล้วยังไม่ทันชาเค้าก็ทำแล้ว เจ็บขะมัด เจ็บจี๊ดจนน้ำตาซึมเลย ตอนฉีดยาชาว่าเจ็บแล้ว ตอนที่จิ้มเข้าไปข้างในตอนยาชาไม่ออกฤทธิ์นี่เจ็บยิ่งกว่า
คราวหน้าถ้าชาแค่ลิ้น ปากยังไม่หนา ยังไม่ชา นี่ต้องบอกให้เค้ารอล่ะ ไม่งั้นไม่ไหวจริงๆ ไม่ชาซักนิด จะตายเอา ดีนะที่ขอผ้าห่มเค้ามา ตอนทำนี่จิกผ้าห่มตลอดเลย ตอนเค้ายังไม่ซ้ำยาชาให้นี่ปากสั่นหงึกๆเลย (จริงๆสั้นทั้งตัว)
ตอนทำหมอก็อธิบายนะว่าทำอะไร เห็นอะไรบ้าง เลือดข้นๆ เห็นเป็นหนอง (นึกตามแล้วขยะแขยงมาก)
เค้าบอกเป็นเพราะข้างในติดเชื้อ มีเศษฟันหลงเหลืออยู่ด้วย เค้าก็ผ่าเข้าไปใหม่ แล้วล้างแผลที่เคยผ่าไปแล้วให้อีกรอบ
ดีนะที่มาหาหมอ ถ้าปล่อยทิ้งไว้จนเหงือกหายดีแล้วคงล้างยากกว่านี้เยอะ
ครั้งนี้ได้ทำกับนักศึกษา แต่ว่าก่อนทำก็ปรึกษาการทำกับอาจารย์ที่ควบคุมอยู่แล้ว ก็ ok ล่ะ ชอบที่นี่คือถึงแม้จะเคสยากแค่ไหน ก็สามารถไปหาคนมีความสามารถมาถามหรือมาทำให้เลยได้ มั่นใจว่ามาแล้วได้รับการรักษาที่ถูกต้องแน่นอน
ตอนล้างแผลเค้าก็ผ่าเหมือนผ่าฟันคุดทุกประการเลย เพียงแต่ว่าไม่มีการกรอกระดูก และไม่มีการหยิบฟันออก
ก็จะไม่มีเสียงดังๆรำคาญแก้วหูมา มีแค่เหล็กมาก๊องแก๊งๆแถวฟัน เสร็จแล้วก็เย็บแผลเก็บเข้าที่เดิม นอนพักนิดหน่อย แล้วก็เดินออกมา
ใช้เวลาทำทั้งหมด 1 ชั่วโมง

หมอบอกว่าครั้งนี้ใส่ท่อระบายไปให้ด้วย พรุ่งนี้มาเอาออก ไอ้เราก็ไม่รู้ว่าเอาไว้ทำอะไร หน้าตาเป็นไง
หมอพยายามจะให้ส่องกระจกดูท่อด้วย แต่พอหยิบกระจกมา หมอนึกได้ว่ากัดผ้าก๊อตอยู่ เลยยังไม่ได้เห็นว่าท่อระบายหน้าตาเป็นไง
หมอก็อธิบายว่าควรทำตัวยังไง ก็เหมือนผ่าฟันคุดนั่นแหละ แต่อธิบายละเอียดดี เข้าใจอะไรเยอะขึ้น เช่น
- หลังจากเลือดหยุดไหลแล้ว ควรพยายามฝึกอ้าปากไว้ ไม่งั้นกล้ามเนื้อจะจำอันใหม่ แล้วจะอ้าปากได้น้อยกว่าเดิม
- การบวม จะบวมมากที่สุดในวันที่ 3 จากนั้นจะค่อยๆลดลง
- โดยส่วนใหญ่จะให้กัดผ้าก๊อต 1 ชั่วโมง แล้วเปลี่ยนอันนึง เมื่อหมดอันใหม่ เลือดก็ควรจะหยุดแล้ว
- สองวันเล็กประคบเย็น เพื่อไม่ให้เลือดไหลไปบริเวณนั้น ลดปวด หลังจากนั้นให้ประคบร้อน เพิ่มการไหลเวียนของเลือด
- หลังผ่าหรือถอนฟัน ในช่วง 1-2 วัน อย่าบ้วนปากแรงๆ แผลจะหายช้า ถ้ามีเลือดปนมากับน้ำลายอย่าบ้วนเช่นกัน ให้กลืนลงไป แปรงฟันได้ แต่ซี่ข้างในให้แปรงเบาๆ (ส่องไฟแปรงก็ได้ จะได้กะถูก) บ้วนปากแบบให้น้ำไหลผ่าน อย่ากลั้วแรง แบบ ขากกกก ถุย

ออกมาแล้วมีการบวมนิดหน่อย


ครั้งนี้เค้าลืมให้ผ้าก๊อตกับถุงน้ำแข็งมา เลยเดินเข้าไปขอผ้าก๊อตเค้า แต่ไม่ได้ขอถุงนำ้แข็งมา เพราะคิดว่ามันไม่เจ็บมาก ยาชาก็ยังอยู่ คงไม่จำเป็นมั้ง
แต่คิดผิดมากๆเลยครับ
เพราะตอนมาถึง BTS แล้ว มันปวดมาก ปวดสุดๆๆ แล้วมันเพิ่งมาปวดตอนที่ขึ้น BTS มาแล้วนี่สิ จะซื้อน้ำแข็งก็ไม่ได้แล้ว เลยทนๆไป
เป็นการนั่งรถไฟฟ้าที่ทรมานที่สุดเลย ทรมานพอๆกับตอนที่อั้นขี้บนรถไฟฟ้าเลย
ตอนนั้นสถาพตัวเองเหมือนคนติดยากำลังลงแดงอะ ตัวสั่น ตาขวาง นั่งบิดไปบิดมา จิกเสื้อ จิกกางเกงตัวเอง อะไรๆก็ดูขัดหูขัดตาไปหมด
ทรมานจนต้องหยิบ ibuprofen มากินเลย ตอนหยิบมามือก็สั่นหงึกๆ อ้าปากก็ไม่ค่อยขึ้น ทรมานมาก
พยายามจะดูวิวแล้วทำจิตใจให้สงบ ก็ช่วยบ้างบางช่วง คนข้างๆแม่งดันเหม็นบุหรี่อีก เหม็นจนต้องลุกมานั่งอีกฝั่ง
พอถึงบ้านรีบนั่งมอไซต์กลับบ้านมาประคบนำ้แข็งเลย
หลังจากผ่านมาซักพักก็ดีขึ้น กินโจ๊กเคี้ยวหมูเคี้ยวไส้ได้นิดหน่อย
วันนี้ใช้ผ้าก๊อตไป
1. ตอนทำเสร็จ + ถึงบ้าน (16:15)
2. ถึงบ้าน ดูการ์ตูน กินนม (17:30)
3. อาบน้ำ กินข้าว (19:00)
4. หลังข้าวเย็นจนถึงก่อนกินอาหารก่อนนอน (เพื่อไม่ให้ท้องว่างตอนกิน ibuprofen, 23:00)
ตกดึกหลังแปรงฟัน เปิดมาดูสภาพแผลหน่อย

อันนี้สภาพก่อนแปรงฟัน มีรอยเลือดติดอยู่เล็กน้อย เห็นท่อระบายแล้วด้วย เย (ถึงแม้จะดูไม่ค่อยเป็นท่อก็ตาม)

แผลยังคงบวมอยู่ แต่คิดว่าเดี๋ยวก็คงยุบ เพราะล้างข้างในไปแล้ว

ตรงท่อยังมีเลือดไหลอยู่นิดหน่อย ตอนนี้เข้าใจว่าท่อมันระบายเลือดจากเหงือกให้ไปสู่ส่วนที่กลืนได้ง่ายๆ มั้ง?


รอดูสภาพวันพรุ่งนี้ต่อไป
ยาที่ได้มา

วันรุ่งขึ้น (วันพุธ) สถาพหลังล้างแผลเสร็จ
ตอนล้างแผลไม่มีฉีดยาชา เพราะไม่ได้เจ็บมาก มีเสียวๆฟันเล็กน้อย วันนี้แกะท่อระบายออกไปละด้วย


วันพุธ เหงือกเริ่มไม่บวมละ แต่มีคราบอะไรขาวๆติดฟันไม่รู้ ดูสกปรกอย่างบอกไม่ถูก



วันพฤหัส ไปล้างแผลอีกรอบ รอนานเหมือนเคย (รอ 1 ชั่วโมงทุกครั้งที่ไป ไม่ว่าจะนัดไว้ก่อนหรือไม่ก็ตาม) วันนี้หมอเค้าบอกแผล ok แล้ว ตัดไหมออกก่อนเลยละกัน (เพิ่งเย็บไปเมื่อสามวันที่แล้ว)
ตอนตัดออก ก็มีเช็คกับคนเก่าว่าเย็บไปเท่าไหร่ ทำให้เรารู้สึกว่า เราเปลี่ยนไปทำที่อื่นไม่ได้แฮะ ที่นี่เค้ามีประวัติเราไว้อยู่แล้ว ย่อมทำได้ดีกว่า เหลือล้างแผลวันพุธหน้าอีกที มาที่นี่เป็นครั้งสุดท้ายละกัน

วันนี้ขึ้นไมถามแผนกจัดฟันด้วยว่าถ้าจองตอนนี้ต้องรอนานไหม เค้าบอกว่า 1-3 ปี
ก็ตามคาดอะนะ คงจัดที่นี่ไม่ได้ละ ไปหาที่อื่นจัดละกัน


วันศุกร์ ทำไมเหงือกเป็นสีแบบนั้นไม่รู้ ดูน่ากลัวววว


วันเสาร์รู้สึกว่าอยากปล่อยให้มันพัก เลยไม่ได้ไปแหกมาถ่ายรูป

วันอาทิตย์มาดูความคืบหน้าอีกที
เหงือกไม่บวมแล้ว แต่สีเหงือกยังดูน่ากลัวอยู่เลย 





วันพุธ นัดล้างแผลครั้งสุดท้าย 
ก่อนไปล้าง เหงือกยังมีสีเทาๆอยู่บ้าง โพรงตรงเหงือกยังเห็นชัดเจนอยู่
แต่ตอนเคี้ยวข้างเดียวยังชอบกัดแก้มด้านซ้ายอยู่ เสียวว่าซักวันมันจะหลุดออกมาจริงๆ


ล้างเสร็จหมอบอกไม่ต้องมาแล้ว เลยถ่ายรูปที่นี่เก็บไว้เป็นที่ระลึก


คือถ้าไม่จำเป็นจริงๆไม่อยากมาที่นี่ละ วันนี้กว่าจะได้ทำรอไปสองชั่วโมง (one piece ดัน update game อีก เล่นไม่ได้ โคตรเซ็ง, เป็น rm ด้วย ต้องฝากงานไว้กับเพื่อนต่ออีก ทั้งๆที่อยากกลับไปเร็วๆแท้ๆ)

วันนี้หมอบอกว่าหนองไม่มีแล้ว แต่ให้ล้างแผลด้วย หมอถามว่า ไม่เคยล้างแผลเองเลยใช่ไหม
ไอ้เราก็งงสิครับ เอ้ย เราล้างเองได้ด้วยหรอ คนก่อนไม่เห็นบอกเลย นึกว่ามันต้องใช้อุปกรณ์พิเศษซะอีก

หลังวันนี้หมอเลยเอาหลอดฉีดยาแบบปลายไม่แหลม +  หัวต่อให้เรา
บอกให้ไปซื้อน้ำเกลือตามร้านขายยา ใส่เข็ม จ่อไปที่โพรง แล้วฉีดล้างแผลสามเวลาหลังอาหาร จะทำให้หายเร็วขึ้น 

วันพฤหัส
ลองฉีดดู หวังว่าไอ้เหลืองๆที่อยู่ในโพรงจะหายไป แต่หลังฉีดแล้วมันก็อยู่ที่เดิมนี่หว่า ต้องเอามือไปลูบๆมมันด้วยไหมเนี่ย




วันเสาร์
เจอพี่คนนึงเค้าบอกว่าถ้าเป็นรูแบบนี้ให้ระวังมันเน่า ให้รีบเอาเศษอาหารออกเลย
ไอ้เราก็เอาไม่ออก พยายามฉีดแล้วว เขี่ยแล้ว มันก็ยังอยู่ที่เดิม
ลอง search หาวิธี
http://pantip.com/topic/32335825
https://www.gotoknow.org/posts/129360
เค้าก็บอกให้บ้วนปากแรงๆ เอาไม้จิ้มฟันเขี่ย อย่าเพิ่งใช้ข้างนั้นเคี้ยว
(จริงๆตอนนี้ถ้ากดฟันขวาล่างซี่ในสุดยังเจ็บอยู่เลยนะ)

ไอ้เว็บล่างก็บอกให้ใช้เข็มดูดน้ำ + ท่อต่องอๆเหมือนที่เราใช้อยู่เป๊ะเลย แต่ของเราไม่ยักกะออกมาซักที :'( 


วันจันทร์ 
ตอนนี้กินผักแล้วทรมานทุกที เพราะผักมันชอบเข้าไปติดในซอกฟันทุกครั้ง!
ย้ำนะว่าทุกครั้ง ต้องคอยดึงออก แย่หน่อยก็ต้องใช้ไหมขัดออก
ในเว็บบอกว่าเป็นเพราะถอนฟันไป ฟันเลยไม่ชิดกันเหมือนเดิม 
ตอนดึงผักออกจากร่องฟันนี่รู้สึกว่าเลือดไหลออกมาด้วยเลย ไม่รู้เป็นอะไรป่าว

ฟันล่างขวาตอนกัดยังเจ็บอยู่ แต่ไม่เจ็บมากละ พอเคี้ยวได้ แต่ไม่ค่อยอยากเคี้ยวด้านนี้มาก กลัวอาหารเข้าไปในรู
แต่เคี้ยวด้านซ้ายผักก็ติดฟันอีก ลำบากจุง
ต้องพยายามใช้ฟันหน้าเคี้ยวอย่างเดียวหรือไงนะ
เรื่องโพรง วันนี้มีวิธีฉีดแบบใหม่ รู้สึกมีเศษอาหารออกมาเยอะกว่าเดิม ลองฉีดแบบนี้ไปซัก 2-3 วัน ถ้ามันหลุดออกมาหมดก็ไม่ต้องไปหาหมอฟันละ (แต่ฉีกทีนี่เห็นเลือดซิบๆเลย น่ากลัวว)
วิธีคือเอาไฟส่องเข้าไป แล้วเอาเข็มจิ้มไปในโพรง ลึกพอประมาณ จากนั้นเอาไฟฉายออก อย่าขยับมือที่ถือเข็ม แล้วฉีดเข้าไปแรงๆ (อย่าแรงมากนะ เดี๋ยวเข็มทิ่ม)
Trick คือมือต้องไม่ขยับออกมานะ ไม่งั้นน้ำจะไม่พุ่งเข้าไปที่รู

สภาพเข็มล้างแผลที่เค้าให้มา



29 OCT
สีเหงือกกลับมาเป็นปกติละ
มีความรู้สึกว่ารูมันเล็กลง หรือคิดไปเองหว่า?


6 Nov
รูมันยังอยู่ที่เดิม แต่ใส่เหล็กดัดฟันแล้วบังรูมิดเลย ฉีดน้ำเกลือยากขึ้นเยอะ
หมอเค้าบอกรอเป็นเดือนเลยกว่ารูจะหาย ขี้เกียจรอเลยดัดๆไปก่อนเลยละกัน