วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2559

ถอนฟันคุดซี่ที่ 1


และแล้วก็มาถึงวันที่นัดไว้
ตื่นเช้ามาแก้มยังบวมอยู่เลย ยังคิดอยู่เลยว่า ไปแล้วจะเสียเที่ยวไหม
แต่ไหนๆก็ลาไปแล้ว ลองไปดูก่อนละกัน เผื่อฟลุคได้ทำขึ้นมา
ไปถึงตอน 9 โมงตรงเวลาเป๊ะ รอจนถึงเกือบๆ 10 โมง (ตามที่เค้าเคยบอกวันเสาร์) ได้เข้าไปรอข้างในต่ออีกแป๊ป ซักพักก็ได้ทำ
ก่อนหน้าที่ทำหมอถามว่าอ้าปากแล้วเจ็บไหม
เราก็ตอบไปอย่างมั่นใจว่า "ไม่เจ็บครับ" เพื่อที่จะให้หมอเห็นว่าเราทำได้
หมอถามต่อว่าเอานิ้วสามนิ้วยัดเข้าไปได้ไหม
เราก็ลองทำดู แต่ เฮ้ย! แม่งยากกว่าที่คิดว่ะ เข้าก็จริงแต่ลำบากมาก คือสี่นิ้วนี่ไม่ได้แล้วอะ แผลบวมนั่นยังออกฤทธิ์อยู่จริงๆด้วย

แต่ในเมื่อเอาสามนิ้วเข้าได้หมอก็ทำให้ล่ะ
เริ่มฉีดยาชา คราวนี้รู้สึกร้อน + เจ็บเล็กๆตอนเค้าฉีด ไม่เหมือนที่หมอผู้หญิงแถวบ้านทำให้
เค้าถามว่าชาไหม เราก็บอกไม่ชา ครั้งที่แล้วผมก็ชาช้า
เค้าเลยจัดไปอีกที คราวนี้แหละชาเลย ทั้งปากทั้งคาง (ตรงลิ้นไม่ค่อยรู้สึก)

ก่อนทำฟันที่นี่เค้าจะ paint ปากก่อนด้วย ด้วยอะไรไม่รู้ ทำให้ไม่แน่ใจว่าที่ชานี่เพราะมีอะไรติดอยู่ที่ปากรึเปล่า

เค้าฉีดยาชาแล้วก็จัดการทำเลย จิ้มไปซักพัก ค่อยมาถามว่าเจ็บป่าว (ถามช้าไปไหมมม) ก็เจ็บอยู่นะ แต่ไม่ใช่เจ็บตรงเหงือกที่เค้าจิ้ม
เจ็บตรงแผลที่มันบวมๆ เลยบอกไปว่าไม่เจ็บ เค้าก็ทำต่อไป
ระหว่างนั้นก็ภาวนาให้เค้าทำช้าๆ รอให้ยาชาค่อยๆออกฤทธิ์ก่อน

เป็นการทำที่ทรมานมาก เนื่องจาก
1. ฟันคุดอยู่ลึก
2. ฟันอยู่ในท่ายาก

ทั้งขูดทั้งเจาะอยู่นานมาก มันไม่เจ็บนะ แต่ว่าบางจังหวะมันเสียวฟันมาก ดีที่หมอเตือนไว้ก่อนว่าฟันเราอยู่ลึก ใกล้เส้นประสาทมาก เพราะงั้นทำๆไปมีเสียวฟันแน่ๆ เลยเตรียมใจเอาไว้ก่อนแล้ว

นอกจากจะเสียงเป็นพักๆจนต้องจิกเบาะตลอด ยังมีเสียงเครื่องมือตัวนึงที่ดังมากๆ ดังจนอยากจะเอามือที่จิกเบาะมาอุดหูแทนเลย

ตอนที่เค้าพยายามงัดฟันออกนี่ก็กดลงไปหนักมาก หนักจนไปทั้งหน้าเลย ดีนะที่ฉีดยาชาอยู่ไม่งั้นคงเจ็บจนร้องจ๊ากอะ ทำเสร็จประมาณ 11:30 จริงๆในใจก็คิดตลอดนะ ว่าหมอต้องลืมถอนฟันแน่ๆ  แต่ไม่บอก เพราะว่าแค่ถอนฟันคุดก็เหนื่อยมากแล้ว ถอนอีกคงไม่ไหว
พอได้มานั่งข้างนอกแล้วไม่อยากลุกเลยอะ มันระบมไปหมด
กลืนน้ำลายยังเจ็บเลย ความรู้สึกเหมือนเจ็บคออะ แต่ไม่ใช่ จริงๆคือเหงือกมันสะเทือน
นั่งเจ็บอยู่ซักพัก จริงๆก็นานอยู่ นานจนหมอที่ทำฟันให้ออกไปพักกลางวันมาถามเลยว่าถึงคิวหรือยัง
เอ้อ ลืมบอกไปเรื่อง ที่นี่มีที่ทำฟันหลายบู๊ตมากนะ ที่นับได้ขั้นต่ำก็ 10 ช่องเลย (จริงๆมีเยอะกว่านั้น 2-3 เท่ามั้ง)

หลังจากออกจากคณะทันตะมาก็เดินอย่างช้าๆไปรถไฟฟ้า เป็นการเดินที่ช้าที่สุดในชีวิตเลยมั้ง มีคนแซงตั้งหลายคน เด็กยังเดินแซงเลย ปกติเป็นคนเดินเร็วนะ แต่วันนี้ไม่ไหวจริงๆ มันเสียวในช่องปากไปหมด ไม่อยากกระแทกแรง (ไม่ถึงขั้นเจ็บนะ แต่มันเสียวฟันแบบบอกไม่ถูก เป็นความรู้สึกแบบ เมื่อไหร่มันจะหาย)

ระหว่างทางก็พยายามจะหาซื้อโจ๊กกิน แต่หาไม่ได้ เลยซื้อชานมดฉาก๊วยแทน ตอนสั่งก็ทุลักทุเลมาก พูดได้นะ แต่ไม่อยากพูด ปากมันชาๆ เลือดเต็มปาก เลยถ่ายรูปเมนูแล้วยื่นให้เค้าเอา
(เพิ่งมานึกได้ทีหลังว่าข้างใต้ทันตะมันก็มีศูนย์อาหาร และน่าจะมีโจ๊กขายด้วย)

มาถึง office นี่ไม่มีแรงทำงานเลย มันมึนไปหมด (อารมณ์เหมือนคนไปบริจาคเลือดตอนที่นอนไม่พอ) ไม่อยากทำอะไรเลย แต่ยังพอทนๆไหว เพราะงานไม่ได้เร่งมาก ถึงจะรำคาญที่พูดไม่ได้เวลามีคนชวนคุยก็ตาม


รอให้เลือดหยุดไหลซักพัก (ยังกัดผ้าก๊อตอยู่ เปลี่ยนทุกชั่วโมง) หมอเค้าบอกช่วงบ่ายก็หยุดแล้ว แต่ของกูไม่หยุดนี่ดิ  แต่มันหิว เลยกินนมไปสองกล่อง ชานมเฉาก๊วย 1 แก้ว แล้วรีบเอา Buprofen ยัดปากเลย กินกันไว้กลัวยาขาหมดฤทธิ์แล้วเป็นแบบครั้งที่แล้วอีก
มีกินกล้วยปั่นด้วย แต่กินไม่หมด มันเค็มๆ แปลกๆ ไม่รู้เพราะเลือดที่อยู่ในปากรึเปล่า
ไม่ชอบความรู้สึกที่ยาชายังอยู่เลย มันแปลกๆ ปากดูหนาๆ ชาๆ ควบคุมไม่ค่อยได้

ยาชาหมดฤทธิ์ไปประมาณสามโมงครึ่ง ตอนนั้นไม่เจ็บแผลเท่าไหร่ น่าจะเพราะว่ากินยาเข้าไปแล้ว ยาชาหมดฤทธิ์แล้วรู้สึกทำงานได้มากขึ้น

กลับบ้านมากินอาหารนิ่มๆ จริงๆมีความรู้สึกว่ากินอะไรก็ได้นะ ไม่ได้เจ็บมาก แค่เคี้ยวแต่ฝั่งขวาก็พอ วันนี้จัดกระเพาะปลา + ไข่ลวกไป ก็กินได้นะ ลำบากตอนที่จะอ้าปากเอาชิ้นใหญ่ๆเข้านั้นแหละ อ้าไม่ค่อยขึ้น

ตอนนี้จะจบวันแล้ว เลือดยังไม่หยุดไหลเลย พยายามยัดผ้าก๊อตไปให้ไม่โดนลิ้นละ ไม่งั้นจะคลื่นไส้ อยากเอาออก
มื้อเย็นก็ยัด Buprofen เข้าไปอีกเม็ด รอดูพรุ่งนี้ถ้าไม่ปวดค่อยเลิกกิน

ถึงตอนนี้ ไม่ได้ปวดอะไรเลย แค่รำคาญที่เลือดไม่ยอมหยุดซักทีนั่นแหละ
มารอดูต่อละกันว่าพรุ่งนี้จะใช้ชีวิตตามปกติได้หรือยัง

เอ้อ ตั่งแต่กลับมานี่ลืมประคบน้ำแข็งเลยแฮะ ไปหามาประคบก่อนดีกว่า เผื่อมันทำให้แผลหายบวมเร็วขึ้น


สถาพไหมเย็บแผล หลังจากผ่านมาซักพัก


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น