วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2559

ถอนฟันคุดซี่ที่ 2

หลังจากผ่าครั้งแรกจบไป
ปัญหาที่พบคือเลือดหยุดไหลช้า หมอบอกว่าทำตอนเช้า ตอนบ่ายก็หยุดไหล
เรานี่ปาไปอีกสองวันกว่ามันจะหยุดสนิท (แต่มันก็ค่อยๆหยุดนะ หมอบอกบางรายไม่หยุดเลย ต้องไปหาหมออีกที)

เชคสภาพปากก่อนไปทำ

ข้างซ้ายยังเป็นรูโบ๋อยู่เลย (ถ่ายภาพมาจากกระจก ภาพเลยกลับซ้าย-ขวา)

เทียบกับด้านขวาที่ยังไม่ได้ทำอะไรมา



ทำครั้งที่สอง ล่างขวา
ขอข้ามส่วนที่เป็นการนัดไปเลยละกัน มาถึงตรงเก้าอี้หมอเลย
หมอบอกว่าซี่นี้จะยากกว่าซี่ที่แล้วนะ ไอ้เราก็งง ที่เราดูฟิล์มมาซี่ที่แล้วมันดูยากกว่านี่หว่า
หลังจากให้หมออธิบายแล้วถึงรู้ว่า  เราดูฟิล์มผิด! ดูกลับซ้ายขวามาตลอด ไอ้ข้างที่ง่ายๆอะ คือข้างที่ผ่าไปอย่างเจียนตายเมื่อสองสับดาห์ที่แล้ว
ไอ้เราก็หน้าซีดเลย คิดว่าผ่านศึกใหญ่มาแล้ว ครั้งนี้ขี้ๆ ที่ไหนได้ ครั้งนี้ดูน่าจะหินกว่าครั้งที่แล้วด้วยซ้ำ

ครั้งนี้บอกหมอด้วยว่าขอให้ถอนฟันให้ด้วย เอาแค่ข้างที่ฉีดยาชาก็พอ
หมอเค้าก็โอเค แต่บอกว่าถอนทั้งบนทั้งล่างของข้างขวาไปเลยละกัน (อย่างละซี่)
ก่อนจะทำหมอก็จิ้มให้ดูว่าซี่บนนี่รากฟันมันใกล้ไซนัส ถอนไปอาจทิ่มทะลุ หรือรากฟันหลุดเข้าไปในไซนัสได้ อาจทำให้เกิดอาการ บลา บลา บลา ไอ้เราก็หน้าซีดเข้าไปใหญ่
ถอนฟันคุดยังเข้าใจว่ามีอาการนั่นนี่ตามมาก็ไม่แปลก เพราะต้องผ่า ต้องกรอ ต้องถอน แต่นี่ถอนฟันธรรมดาๆ ยังมีอาการแทรกซ้อนได้ขนาดนี้เลยหรอเนี่ย
เริ่มคิดอยากจะเลิกดัดฟันอีกทีแล้วสิเนี่ย
แต่เอาน่ะ มาถึงขนาดนี้แล้ว เดินหน้าต่อไปละกัน

หมอเค้าเห็นเราหน้าซีดๆตัวสั่นๆมั้ง เลยถามเราว่าจะไปเข้าห้องน้ำก่อนไหม ตอนแรกกะจะอั้นไว้ แต่ได้ไปซะหน่อยก็ดี
เมื่อกลับมาก็เริ่มทำ ฉีดยาชาแล้วทำตามปกติ
คราวนี้ชินกับครั้งที่แล้วมาละ เลยไม่รู้สึกทรมานกับเสียงหรือแรงกดเท่าไหร่
แต่ที่ surprise คือหมอที่เราทำบอกว่าหาฟันไม่เจอนี่แหละ
เหมือนมีทางให้เลือกสองทางซ้ายกับขวา ต้องเลือกว่าไปทางไหน ถ้าไม่เจอก็คือกรอผิด ไปอีกทางนึง
ดีนะที่มีอาจารย์คนนึงที่เก่งมากๆคอยให้คำปรึกษาอยู่
เพราะหลังจากปรึกษาอาจารย์คนนั้นจนเจอฟันน้อยที่นอนคุดคู้อยู่แล้ว หมอที่ทำให้เราก็บอกมาว่ามันอยู่ลึก และเอาออกมายากมาก เหมือนเป็นข้อจำกัดของการ X-ray ที่ X-ray ออกมาแล้วดูเหมือนง่าย แต่จริงๆอยู่ลึกมาก (ไม่คิดว่าเป็นข้อผิดพลาดของเครื่องนะ เพราะ X-ray มาสามครั้งแล้ว ก็ดูอยู่ที่ๆเดียวกันหมด)
อาจารย์คนนั้นมาให้คำปรึกษาไม่พอ คราวนี้มาลงมือทำเองด้วย (หมอที่เราทำตอนแรกอายุ มากกว่าเราปีนึง, 27, ยังไม่ได้ผ่าน case ยากๆแบบนี้มา) รู้สึกโล่งอกเลย เค้าทำไปสอนไป พูดน้ำเสียงสบายๆว่า เป็นอย่างนี้ก็ทำอย่างนี้ เอาเครื่องมืออันนี้มาแล้วก็ทำแบบนี้ ดูชิวๆไปเลย
แต่เค้าบอกเคสนี้ยากนะ ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ แล้วก็คิดเงินเพิ่มด้วย

สุดท้ายก็เอาเจ้าฟันคุดออกไปได้ในที่สุด
ยากกว่า แต่ไม่รู้สึกเหนื่อยเท่าครั้งแรก ยังรู้สึกว่าถอนฟันต่อไหว
หมอเค้าก็ถามว่าถอนต่อไหวไหม ก็ตอบอย่างมั่นใจไปเลยว่า "ไหวครับ!"
เค้าก็กำลังเตรียมการถอน อาจารย์คนที่ดูเก่งๆก็เดินเข้ามาแล้วพูดว่า "เแหม อยากถอนให้ดูจังเลยอะ"
พูดแค่นั้นแหละ นักศึกษาแถวๆนั้นมามุงรอบเรากันเต็มเลย
อาจารย์เค้าก็เริ่มตั้งแต่ฉีดยาชา (เจ็บ) มาสู่การถอน ซึ่งถอนสองซี่ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที งัดแป๊ปๆหลุด นักศึกษาแถวนั้นร้องว้าวกันเป็นแถว
เราก็สบายใจ ไม่เหนื่อยมาก

เดินออกมา ไม่ปวดเหมือนครั้งที่แล้วด้วย ยาชาทำงานได้ดีมาก มาจ่ายตัง (ค่าอุปกรณ์พิเศษที่ใช้ตอนผ่าฟันคุด เพิ่มมา 500 บาท) รับยาแล้วก็กลับบ้าน


คราวนี้เดินกลับได้ตามปกติเลย รีบเดินมาเร็วๆ ระหว่างทางกลับบ้านซื้อโจ๊กและนม และโยเกิร์ตมา กลับบ้านมารีบอาบน้ำ ก่อนที่ยาชาจะหมดฤทธิ์ เพราะถ้าหมดฤทธิ์แล้วคงไม่อยากทำอะไรเลยล่ะ
หิวๆด้วย ไปหาหมอบ่ายโมง ได้เริ่มทำบ่ายสอง ออกมาบ่ายสามครึ่ง ถึงบ้านก็เกือบหกโมง เวลาอาหารเย็นละ กะจะกินโจ๊ก แต่ทดสอบการเคี้ยวดูละ ปากยังชาอยู่ ไม่สามารถเคี้ยวได้แน่นอน เลยกินนมไปสองกล่อง + โยเกิร์ต แล้วรีบกิน IBU profen กันไว้ก่อนเลย
เปลี่ยนผ้าก็อต ซึ่งคราวนี้ยากหน่อย มีตั้ง 3 อัน เพราะต้องอุดรูที่ถอนฟันไว้ด้วย แล้วปากก็ยังชาอยู่ ยังอ้าไม่ค่อยได้ แตะก็ไม่รู้สึกว่าวางผ้าไว้ถูกที่ป่าว

เสร็จแล้วก็นั่งประคบน้ำแข็งต่อไป ตอนนี้ทุ่มนึง ยาชาเริ่มหมดละ เริ่มปวดๆมาละ โอยยย พรุ่งนี้จะไปทำงานไหวไหมเนี่ย

สภาพหลังจากกลับมา อุดผ้าก็อตเต็มปาก


ลองแกะผ้าออกดู เลือดชุ่มเลย :'(


เหงือกเป็นโพรงเบย

เทียบกับอีกข้างที่เพิ่งหาย


ที่ถอนฟันออกมาเลือดไหลอยู่เลย (หวาดเสียวจุง)

ซี่ล่าง


update: หลังจากปวดมากๆอยู่จนถึงสองทุ่มก็เริ่มหายไปเป็นปลิดทิ้ง ไม่รู้เพราะยาเพิ่งออกฤทธิ์หรือป่าว
แต่หยิบโจ๊กมากินคราวนี้ไม่เหมือนคราวแรก คราวแรกเคี้ยวสบายๆ คราวนี้เคี้ยวแล้วมันรู้สึกแปลกๆ เจ็บก็ไม่ใช่ เป็นความรู้สึกว่า ไม่ควรเคี้ยวอะ ทำให้กินพวกหมูไม่ได้เลย (ผักชียังลำบากเลย ต้องกลืนๆเข้าไปเลย ติดคอนิดนึง)
ตอนทำฟันหมอเค้าบอกว่ามีส่วนช้ำๆ เลยลองเอาไฟส่องเข้าไปในปากดู
โอ้โห! ช้ำเยอะเหมือนกันนะเนี่ย น่ากลัวชะมัด เป็นรอยม่วงๆเลย



วันนี้ใช้ผ้าก๊อตเยอะอีกแล้ว แต่ที่มหิดลนี่จะให้มาให้แค่ 2 อันเอง ดีนะที่ขอของบริษัทมาอีก 4 อัน ไม่งั้นได้วนใช้ของเก่าแน่

ความบวมในวันนี้



หลังจากผ่าไปวันพฤหัส เหมือนวันศุกร์จะเดินและพูดเยอะไปหน่อย ทำให้คืนวันศุกร์นี่ปวดมาก นอนไม่หลับเลย ต้องลงมาให้อะไรกันเพื่อซัด ibu ไปอีกเม็ด
ลองส่องๆดูในปากก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ ไม่รู้เจ็บที่อะไร แต่รอบช้ำจางๆลงละ




มาวันเสาร์ ก็ยังเริ่มเคี้ยวหมูในโจ๊กได้แล้ว แต่ก็ยังกินได้แค่โจ๊กกับข้าวต้มเหมือนเดิม ลองหยิบถั่วงอกในผัดไทมากินแล้วยังทรมานอยู่ เหมือนไหมมันตึงๆ ทำให้ขยับปากมากไม่ได้ แต่อาการบวมลดลงหน่อยแล้ว

ลองเทียบๆกับรูปก่อนหน้าแล้วเหมือนความยาวของไหมมันลดลงแฮะ น่าจะเจ็บเพราะเหงือกมันงอกขึ้นมามั้ง

วันเสาร์ก็ปวดเป็นพักๆ แต่ประคบน้ำแข็งแก้ปวดไปได้ แต่ก่อนนอนคงต้องจัดยาไปซักเม็ดล่ะ เดี๋ยวนอนไม่หลับอีก



มาดูรูถอนฟันมั่ง ดีขึ้นเยอะเลย เลือดไม่ไหลละ



คืนวันอาทิตย์
เมื่อวานเตรียมการป้องกันมาอย่างดี กิน ibu ก่อนนอน 1-2 ชั่วโมง
วันนี้ก็เอามั่ง เพราะตอนเย็นๆเริ่มปวดอีกละ แต่ยังไม่กินตอนนั้น ใช้น้ำแข็งประคบไปก่อน ไม่ได้อยากกินยาเยอะ เพราะมีหวังว่าจะได้กินอีกหลายวัน

แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกับคืนวันเสาร์ก็คือ มันไม่หายปวดน่ะสิครับ ไม่รู้ว่าดื้อยา หรือคนทำยาเค้าลืมใส่ตัวยาลงไปในเม็ดนั้นกันแน่
ทรมานมาก แต่ก่อนนอนก็ทำสมาธิ คิดว่าไม่เจ็บๆ (ก็ไม่เจ็บจริงๆ) แล้วก็หลับไปเอง



ตื่นมาวันจันทร์รู้สึกดีมาก เพราะอาการปวดเมื่อคืนหายไปแล้ว รู้สึกว่าจะเริ่มเคี้ยวได้หน่อยนึงแล้วด้วย
หน้ายังบวมอยู่เล็กๆ แต่เคี้ยวกับข้าวได้ก็โอเคละ
รู้สึกเสียวฟันกรามซี่สุดท้ายนิดๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เหมือนมีอะไรหนึบๆติดอยู่ด้วย

วันนี้ตอนเอาลิ้นไปดุนๆฟัน เห็นว่ามีเส้นอะไรไม่รู้ติดที่ซอกฟัน เลยเอามือดึงมันออก
พอดึงเท่านั้นแหละ จ๊ากเลย มันคือไหมเย็บแผล ไม่ใช่เศษอาหาร (ดีนะไม่ได้กระชากแรงจนขาด)
คืนวันจันทร์


วันอังคาร 
วันนี้ตอนนอน ดันดิ้นเอามือไปชกแก้มข้างขวาที่บวมๆอยู่ด้วย เจ็บมากกก
เป็นการตื่นที่ทรมานจริงๆ

วันนี้ไม่ค่อยปวดละ (ถ้าไม่นับที่ชกตัวเองไปเมื่อเช้า) แต่สิ่งที่มีเพิ่มเข้ามาคืออาการ "เสียวฟัน" 
มันเสียวมากครับ เสียวจนทนไม่ไหวเลย ไม่รู้ว่าสาเหตุจากอะไร เป็นอาการที่มันกำลังจะหายรึเปล่า หรือว่าชั้นเคลือบฟันมันหาย หรือเหงือกมันร่น 
ก็อยากไปหาหมอฟันนะ แต่กลัวไปเสียเที่ยว รอดูพรุ่งนี้ก่อนละกันว่าหายไปยัง
การเคี้ยววันนี้ยังเหมือนเดิม พอเคี้ยวได้นิดหน่อย
พอกินไก่ต้มได้ละ แต่ตอนเย็นกินโคลสลอว์ คิดว่ามันชิ้นเล็กๆ กินได้ แต่ไม่ใช่ มันแข็งกว่าที่คิดเยอะเลย กัดทีนี่เจ็บเล็กๆ
ตกดึกก็ยังเสียวฟันอยู่  วันนี้ยาแก้อักเสบหมดละ พาราก็กินไม่ได้แล้ว (ฉลากบอกไม่ควรกินติดกัน 5 วัน) จริงๆก็ไม่น่าเกี่ยว พารามันแก้ปวด อันนี้เราเสียวฟัน กินไปก็เพิ่มภาระให้ไตป่าวๆ

แต่ดันคิดผิด!
คืนวันนี้ตื่นมาตีสองพร้อมอาการปวดมากๆ!
ต้องลงมากิน ibu ทันที

วันพุธ
มื้อเที่ยงจัดหนักไปหน่อย ทำให้ปวดมากกกก
ต้อง ibu อีกเม็ดตอนเที่ยง อาการเสียวฟันยังมีอยู่บ้าง (จริงๆน่าจะมีอยู่ตลอด ความเจ็บมันกลบความเสียวฟันไป)
ตอนกลางคืนกิน ibu  อีกเม็ด

วันพฤหัส
ถึงวันตัดไหมแล้วววววว
สภาพฟัน และความโสโครกของฟันด้านใน ก่อนตัด


สภาพหลังตัดเสร็จ ยังเห็นมีรอยเย็บอยู่
หมอบอกที่เสียวนั่นเป็นเรื่องปกติ เพราะซี่ที่เพิ่งผ่าไปอยู่ลึกมาก
ไปแอบอยู่ข้าวล่างอีกซี่นึงเลย
ไอ้ที่เห็นรอบผ่าไปข้างหลังนี่คือผ่าไปผิดทาง หาไม่เจอ จริงๆไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ (แต่มีก็ทำให้ผ่าได้ง่ายกว่าล่ะ)


ไหมด้านข้างก็หายไปแล้ว
มีรอยเลือดระหว่างฟันนิดๆ

แผลที่ถอนมาวันนี้ก็เลือดหยุดแล้ว
(ตอนถอนนี่กลัวมาก เค้าไม่ยอมปิดตาให้)
ถอนบ่ายสองครึ่ง 
ยาชาหมดตอนประมาณ 6 โมง
ผ้าก๊อตเปลี่ยนไป 5 ผืน
ผืนที่เปลี่ยนกัดแบบให้มันออกมาข้างนอกด้วย เพื่อดูว่าชุ่มเลือดหรือยัง


เทียบสองข้าง


ตื่นเช้ามาวันศุกร์ หายเจ็บแล้ว ยิ้มได้อย่างสบายใจ
ยังตึงๆแผลที่ผ่าฟันคุดอยู่ เคี้ยวได้แล้ว แต่ลำบากหน่อย เพราะมีร่องฟันที่หายไปทั้งสองด้าน
ก็ยังกินอาหารอ่อนๆไปก่อน เพราะกินง่ายดี












ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น